บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กุมภาพันธ์, 2018

ชิกินนัมบัง(Chicken Numbun)

รูปภาพ
ชิกินนัมบัง(Chicken Numbun)    ชิกิน นัมบังคืออาหารของจังหวัดมิยาซากิ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น จังหวัดมิยาซากิเป็นแห่งแรกที่เป็นต้นคิดทำชิกิน นัมบัง คือมีร้านอาหารฝรั่งร้านหนึ่งในจังหวัดมิยาซากิทำอาหารจานนี้ขึ้นมาและจากนั้นก็เป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่ว วัตถุดิบ ไก่ส่วนน่อง 400 กรัม ไข่ดิบ 2 ฟอง ผักกาดแก้ว แตงกวา มะเขือเทศ พอประมาณ เกลือ พริกไทยเล็กน้อย แป้งสาลี พอประมาณ น้ำมันพืชสำหรับทอดไก่ พอประมาณ ซอสทาร์ทาร์ มายองเนส 100 มิลลิลิตร ไข่ต้ม 1 ฟอง หอมหัวใหญ่ 40 กรัม ซอสปรุงรส โชยุหรือซีอิ๊วญี่ปุ่น 3 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะครึ่ง วิธีทำ (ซอสทาร์ทาร์) ปอกเปลือกไข่ต้มหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมประมาณ 5 มิลลิเมตร หั่นหอมหัวใหญ่เป็นชิ้นละเอียด ใส่ไข่ต้ม หอมหัวใหญ่และมายองเนสลงในชาม แล้วผสมให้เข้ากัน  (ซอสปรุงรส) ผสมโชยุหรือซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำส้มสายชู และ น้ำตาลเข้าด้วยกัน ใส่ถาดเอาไว้ วางชิ้นไก่ลงบนเขียงโดยให้ส่วนหนังอยู่ด้านล่างติดกับเขียง สำหรับส่วนของชิ้นไก่ที่มีเนื้อหนาขึ้นมา ให้เอาใบมีดวางราบลงไปแล่เนื้อส่วนนั้นให้แ

เมล่อนปัง(Melonpan)

รูปภาพ
เมล่อนปัง(Melonpan)  เมล่อนปัง(Melonpan) มีประวัติ ไม่แน่ชัด เพราะว่าพบขนมปังที่มีลักษณะคล้ายกันในหลายๆ ชื่อ บางภูมิภาคเจ้าขนมนี้ก็มีชื่อว่า ซันไรส์ จากลักษณะพองฟูแล้วแตกออกเหมือนพระอาทิตย์ขึ้น อย่างไรก็ตาม เมลอนปังนั้นน่าจะมีในญี่ปุ่นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ปี วัตถุดิบ ตัวแป้งขนมปัง แป้งทำขนมปัง   150 กรัม ยีสต์แห้ง   1 ช้อนชา  น้ำตาลทราย   2 ช้อนโต๊ะ  น้ำ   80 มิลลิลิตร ไข่ตีจนเข้ากัน   1 ช้อนโต๊ะ เกลือ  1/4 ช้อนชา เนย   10 กรัม ตัวแป้งคุกกี้  แป้งทำเค้ก   100 กรัม ผงฟู   1/4  ช้อนชา ผิวมะนาวเมลอนขูด  1/2 ลูก เนย   40 กรัม ไข่แดง   1 ฟอง นมหรือน้ำ   1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย   3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายเม็ดหยาบ พอประมาณ วิธีทำ เริ่มทำตัวแป้งขนมปัง ผสมน้ำให้เข้ากับยีสต์แห้งในชามอ่าง เติมไข่ที่ตีเข้ากันแล้ว น้ำตาลทราย แป้งทำขนมปังและเกลือลงไปผสม จัดให้ส่วนผสมของตัวแป้งรวมตัวกันเป็นก้อน นำตัวแป้งจากชามอ่างมาวางบนพื้นกระดานหรือโต๊ะ นวดจนตัวแป้งนุ่มขึ้น จากนั้นยกตัวแป้งขึ้นเหวี่ยงลงไปกระแทกบนกระดานหรือโต๊ะ และนวดสลับกันไปอีกประมาณ 10 นาที วางเนยก้อนเล็ก ๆ กระ

อันปัง(Aupan)

รูปภาพ
อันปัง(Aupan)   อันปัง(Aupan) หรือ ขนมปังถั่วแดง เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1874 โดยช่างทำขนมชื่อ คิมุระ ยาสุเบย์ แห่งร้านคิมุระยะในย่านกินซ่า ร้านขนมปังที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เขาเอาถั่วแดงซึ่งเป็นหัวใจหลักของขนมญี่ปุ่นมาทำเป็นไส้ของขนมปัง เพื่อให้คนญี่ปุ่นลองเปิดใจได้ง่ายขึ้น และมันก็ประสบผลสำเร็จอย่างสวยงาม ถึงขั้นได้นำขึ้นถวายให้พระจักรพรรดิในสมัยนั้นได้ลองชิมด้วย วัตถุดิบ แป้งสาลีเนื้อเหนียวสำหรับทำขนมปัง 150 กรัม น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ ครึ่งช้อนชา ดรายยีสต์ 1 ช้อนชา นมสด 90 มิลลิลิตร ไข่ไก่ 1 ฟอง เนย 10 กรัม ถั่วแดงกวนน้ำตาล 120 กรัม  แป้งสาลีอเนกประสงค์สำหรับโรยกันติดมือ ปริมาณพอสมควร วิธีทำ แรกสุด ใส่แป้งสาลีเนื้อเหนียวสำหรับทำขนมปัง 150 กรัมลงในอ่าง ใส่น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะและเกลือครึ่งช้อนชาลงไป ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน เตรียมอ่างอีกใบหนึ่งแล้วใส่นมสด 90 มิลลิลิตรลงไป จากนั้นเติมดรายยีสต์ 1 ช้อนชาลงไป คนให้เข้ากัน ตีไข่ 1 ฟองให้กระจายตัวเข้ากันดี ใส่ไข่ที่ตีแล้วนี้ 1 ช้อนโต๊ะลงไปในส่วนผสมนมกับดรายยีสต์ ใส่ส่วนผสมนี้ลงไปในอ่างแป้ง ใช้ไม้พายค

โอฉะสึเกะ (Ochazuke)

รูปภาพ
โอฉะสึเกะ (Ochazuke)   โอฉะสึเกะ (Ochazuke) หรือข้าวแช่ญี่ปุ่น เป็นอาหารพื้นบ้านอีกอย่างหนึ่งของญี่ปุ่น มีลักษณะคล้ายกับข้าวแช่ของไทย มีมาตั้งแต่สมัยเฮอัน ในช่วงแรกนิยมใช้น้ำร้อนธรรมดาเทผสมกับข้าวสวย ต่อมาในยุคเอโดะก็ได้เปลี่ยนมาเป็นน้ำชาแทน และตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 ก็ได้มีการวางจำหน่ายโอฉะสึเกะสำเร็จรูปและเป็นที่นิยมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วัตถุดิบ ปลาแซลมอนหมักเกลือ   1 ชิ้น  แผ่นสาหร่ายทะเลหรือโนริ  1 แผ่น ข้าวสวย   300 กรัม น้ำชาเขียว   2 ถ้วย วิธีทำ ทอดปลาแซลมอนหมักเกลือในกระทะไม่ใส่น้ำมัน ทอดทั้งสองด้านให้เหลืองได้ที่ สุกดีแ ล้วให้แกะก้างและดึงหนังปลาทิ้ง ขยี้เนื้อปลาออกหยาบ ๆ ด้วยส้อมหรือตะเกียบ  ใช้กรรไกรตัดแผ่นโนะริออกเป็นเส้น ๆ กว้าง 3 เซนติเมตร จากนั้นวางซ้อนกันและตัดให้เป็นเส้นละเอียดขึ้น ชงชาเขียวปริมาณ 2 ถ้วย ตักข้าวสวยใส่ถ้วยข้าว วางเนื้อปลาแซลมอนและราดด้วยน้ำชาเขียวร้อน ๆ โรยหน้าด้วยโนะริ

โอเด้ง(Oden)

รูปภาพ
โอเด้ง(Oden)   โอเด้ง(Oden) เป็นเมนูหนึ่งที่ใช้ส่วนประกอบหลากหลายต้มอยู่ในน้ำซุปที่ปรุงรสอ่อนๆด้วยโชยุหรือมิโสะ(เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) ส่วนประกอบที่นิยมในโอเด้งได้แก่ หัวไชเท้า ไข่ต้ม ก้อนบุกคอนเนียคุ ลูกชิ้นปลา แครอท กะหล่ำปลีสอดไส้ เต้าหู้ จิคุวะ(ลูกชิ้นปลาแบบแท่ง)นิยมทานในหน้าหนาวและถือเป็นเมนูกับแกล้มในร้านเบียร์ ในร้านโอเด้งที่มีชื่อเสียงบางร้านในโตเกียวออกมายืนยันว่าไม่เคยเปลี่ยนน้ำซุปเก่าออกหมดเป็นเวลาถึง 60 ปี วัตถุดิบ สาหร่ายคอนบุ ปลาแห้งคัตสึโอะบุชิ หัวไชเท้า ไข่ ฮันเปน(เต้าหู้ปลา) จิคุวะ คาราชิ(มัสตาร์ด) วิธีทำ ต้มน้ำซุปโดยใช้สาหร่ายคอมบุกับปลาแห้งคัตสึโอะบุชิ ใส่หัวไชเท้า ไข่ จิคุวะ ฮันเปนลงไปตามลำดับของที่ใช้เวลาในการต้มมากก่อน ใช้ไฟเบาต้มต่อไปเรื่อยๆ จัดใส่จานเสริฟพร้อมคาราชิ Tip! หากต้องการให้รสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้นให้ใช้มีดหั่นวัตถุดิบก่อนนำไปต้ม

ซาชิมิ(Sashimi)

รูปภาพ
ซาชิมิ(Sashimi)   ซาซิมิ (Sashimi) ปลาดิบหั่นบาง ๆ เป็นหนึ่งในอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ ซาซิมิ มักจะทำมาจากอาหารทะเล แต่อาจจะมีเนื้อสัตว์อื่นๆด้วย ที่สามารถนำมาทำเป็นซาซิมิได้     ซาซิมิเป็นอาหารที่มีประเภทที่หลากหลายมากที่สุดและมักพบมากที่สุดในร้านอิซากายะและยังนิยมใช้ในอาหานชุดเทะอิโชคุ และยังเป็นองค์ประกอบหลักของอาหารชุดไคเซกิแบบดั้งเดิม ซาชิมิ มักจะจัดวางไว้บนหัวผักกาดที่หั่นฝอย และโรยหน้าด้วยใบชิโซะ บางครั้งจะชิ้นของซาซิมิมาตกแต่งคว บคู่ไป วัตถุดิบ มีดที่คมมาก เขียง ผ้าสะอาด อาหารทะเลต่างๆที่สามารถทำซาชิมิได้ โชยุ วาซาบิ Tip! อาหารทะเลที่นิยมนำมาทำซาชิมิ คือ ปลามากุโร่ ปลาแซลมอน ปลาไท ปลาซาบะ ปลาคัตสึโอะ  ปลาคังปาชิ ปลาบุริ ปลาหมึก ปลาหมึกยักษ์ อะมาเอบิ(กุ้งหวาน) โฮตาเตะ(หอยเชลล์)  โฮกกิไก(หอยปีกนก) อิกุระ(ไข่แซลมอน) อูนิ(หอยเม่น) วิธีทำ ล้างมือให้สะอาด เช็ดให้แห้ง ไ ม่ควรมีกลิ่นน้ำหอมหรือสบู่กลิ่นแรงๆติด เพราะกลิ่นอาจจะติดลงไปบนอาหารทะเลที่นำมาทำได้ได้ นำอาหารทะเลที่นำมาใช้มาวางบนเขียงในแนวขวาง ใช้มือข้างที่ถนัด

ยากิโทริ(Yakitori)

รูปภาพ
ยากิโทริ(Yakitori)     ยากิโทริ(Yakitori)  อาหารญี่ปุ่นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดชนิดหนึ่ง มักเสริฟเป็นกับแกล้ม สำหรับ นั่งดื่มเบียร์บ้าง เหล้าสาเกบ้าง หรือบางบ้านใช้เสิร์ฟตามงานเลี้ยงสังสรรค์ต่าง ๆ ด้วย เนื่องจากทำง่าย ซึ่งส่วนผสมก็หาได้ทั่วไป วัตถุดิบ สะโพกไก่ มิริน(เหล้าหวาน) โชยุ น้ำตาล พริกชี้ฟ้าเขียว ไม้เสียบลูกชิ้น วิธีทำ หั่นสะโพกไก่เป็นรูปเต๋า หั่นพริกชี้ฟ้าเขียวเป็นท่อนๆ นำมิริน โชยุ และน้ำตาล ต้มในหม้อ คนอย่างสม่ำเสมอ ปิดไฟก่อนซอสจะเดือดเล็กน้อย นำสะโพกไก่หั่นเต๋าและพริกชี้ฟ้าท่อนมาเสียบไม้สลับกันไป นำไก่ไปย่างจนมีสีน้ำตาลอ่อน นำไก่ที่ย่างไปจุ่มในซอสที่เตรียมไว้ และนำไปย่างอีกรอบจนซอสแห้งทำซ้ำ 2รอบ จัดใส่จาน พร้อมเสริฟ

คาเรไรสึ(Kare Raisu)

รูปภาพ
คาเรไรสึ(Kare Raisu)   คาเรไรสึ(Kare Raisu) หรือ แกงกระหรี่ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในอาหารที่นิยมในประเทศญี่ปุ่น โดยทั่วไปจะเสิร์ฟในสามรูปแบบหลักคือ ข้าวแกงกะหรี่ แกงกะหรี่อุดงเส้น และ ขนมปังแกงกะหรี่    แกงกะหรี่เข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงยุคเมจิ (ค.ศ. 1868–1912) ที่นำเข้ามาจากอังกฤษในช่วงที่อินเดียอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ แกงกะหรี่กลายเป็นที่นิยมและมีขายในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารในช่วงปลายทศวรรษที่ 1960  ได้มีการปรับปรุงมากขึ้นตั้งแต่มีการเผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่นและมีการบริโภคกันอย่างแพร่หลายจนถูกเรียกว่าเป็นอาหารประจำชาติ ปัจจุบันเองก็ได้รับความนิยมอย่างมาก วัตถุดิบ หอมใหญ่ ขิง  น้ำมันพืช  เนย  แป้งสาลี  ซอสมะเขือเทศ   ผงกระหรี่  เกลือเล็กน้อย เนื้อสะโพกไก่  แอปเปิ้ล แครอท มันฝรั่ง น้ำ วิธีทำ หั่นหอมใหญ่และขิงให้ละเอียด ใช้ตะหลิวผัดหอมใหญ่กับน้ำมัน ในกระทะบนไฟระดับปานกลางจนหอมใหญ่ดูใสขึ้น เติมขิงและผัดต่อไปจนหอมใหญ่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน เติมเนยและแป้งสาลีลงไปผัดกับหอมใหญ่จนแป้งสาลีเปลี่ยนสี จากนั้นเติมซอสมะเขือเทศแล้วจึงปิดไฟและเติมผงกะหรี

โอโคโนมิยากิ(Okonomiyaki)

รูปภาพ
โอโคโนมิยากิ(Okonomiyaki)    โอโคโนมิยากิ หรือที่เรียกกันติดปากคนไทยว่า "พิซซ่าญี่ปุ่น" มีที่มาจากคำว่า "โอโคโนมิ" แปลว่า สิ่งที่ชอบ และ "ยากิ" แปลว่า ปิ้ง, ย่าง พอนำมารวมกันก็จะแปลได้ว่า เอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ชอบมารวมกัน แล้วปิ้งย่างบนกระทะ ส่วนผสมของโอโคโนมิยากิจึงมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน วัตถุดิบ   แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/4 ถ้วย ไข่ไก่ 2 ฟอง กะหล่ำปลีหั่นฝอย 1 ถ้วยครึ่ง เบคอน 1/4 ถ้วย (สามารถใส่อย่างอื่นแทนได้เช่น ไก่ กุ้ง ปลาหมึก เป็นต้น) น้ำมัน ปลาโอแห้ง สาหร่ายผง มายองเนส ซอสโอโคโนมิยากิ วิธีทำ ทำการผสมแป้ง ไข่ไก่ และน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน ค่อยๆคนช้าๆให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่กะหล่ำปลีหั่นฝอยและเบคอนลงไปผสม  ตั้งกระทะ ทาน้ำมันพืชลงไป พอกระทะร้อนแล้วให้ตักส่วนผสมลงไปแล้วเกลี่ยให้เป็นแผ่นกลม ทอดด้วยไฟอ่อนประมาณ 4 นาทีหรือจนแป้งสุกเหลืองแล้วพลิกกลับด้าน รออีกประมาณ 5 นาที ตักใส่จาน ทาซอสโอโคโนมิยากิและมายองเนสลงไปให้ทั่ว โรยปลาโอกับสาหร่ายลงไปเป็นท็อปปิ้ง

ทาโกะยากิ(Takoyaki)

รูปภาพ
ทาโกะยากิ(Takoyaki)   ทา โกะยากิ ( Takoyaki ) เป็นชื่ออาหารญี่ปุ่นอย่างหนึ่ง ที่เกิดจาก พ่อค้าอาหารริมถนนชาวญี่ปุ่นชื่อ เอ็นโด โทะเมะกิชิ  คิดค้นทาโกะยากิขึ้นใน พ.ศ. 2478 โดยดัดแปลงมาจากอาหารชื่อ  " อากาชิยากิ "  แล้ววางขายใน โอซาก้า  แรกเริ่ม ทาโกะยากิได้รับความนิยมเป็นอันมากในแถบ คันไซ  แล้วแพร่ไป คันโต  ก่อนจะไปสู่ท้องที่อื่น ๆ ตามลำดับ บัดนี้ ในปัจจุบันเป็นที่นิยมภายนอกประเทศญี่ปุ่นด้วย สำหรับในญี่ปุ่นเอง จากเดิมทาโกะยากิมีขายทั่วไปตามรถเข็นริมถนน ที่เรียก " ยาตาอิ " ปัจจุบัน มีวางขายในภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า และร้านซื้อสะดวกยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วย นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังผลิตทาโกะยากิแช่แข็งส่งออกไปขายนอกประเทศเป็นอันมาก และทาโกะยากิกลายเป็นอาหารประจำถิ่นโอซาก้าและคันไซ วัตถุดิบ กระทะสำหรับทำทาโกะยากิ  ไม้จิ้มฟันหรือไม้เสียบลูกชิ้น แป้งทาโกะยากิสำเร็จรูป ไข่ไก่ หัวหอมสับละเอียด ปลาหมึกต้มสุก ท็อปปิ้งต่างๆ(ขิงดองสีแดง สาหร่าย เกล็ดเทมปุระ มายองเนส คะสึโอะบุชิ ซอสทาโกะยากิ) วิธีทำ ผสมน้ำ 600 มิลลิลิตร ต่อแป้งทาโกะยากิ 200 กรัม และไข่ไก่ 1ฟ

โอนิกิริ(Onigiri)

รูปภาพ
โอนิกิริ(Onigiri)   โ อนิกิริ(Onigiri) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งคือ โอมุซุบิ (ลูกบอลข้าว) ที่ทำมาจากการปั้นข้าวญี่ปุ่นให้เป็นรูปกลมๆ ปัจจุบันมีทั้งรูปวงรี วงกลม และสามเหลี่ยมโดยทั่วไปมักใส่ไส้ของโอนิกิริ เป็นบ๊วยเค็ม ปลาแซลมอน ปลาคัตซึโอะ สาหร่ายทะเล และไข่ปลาและมีส่วนผสม ที่มีรสเค็มหรือเปรี้ยวอื่นๆ ความแตกต่างของข้าวปั้นและซูชิคือ ข้าวปั้นจะใช้ข้าวธรรมดาแต่ซูชิจะใช้ข้าวผสมกับ น้ำส้มสายชู เกลือ และน้ำตาล  วัตถุดิบ ข้าวญี่ปุ่นหุงสุก  80/100 กรัม ต่อ 1 ก้อน สาหร่ายแผ่น 1 แผ่น ต่อ 1 ก้อน ไส้อะไรก็ได้ ( ปลาแซลมอน ปลาคัตสึโอะ สาหร่าย บ๊วยเค็ม) Tip!  หากไม่มีข้าวญี่ปุ่นสามารถใช้ข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 ส่วนเรื่องไส้ควรเป็นของที่แห้งเพราะเวลาที่ใส่ไส้ไว้ในข้าวแล้ว พอบีบปั้นเสร็จ น้ำจะซึมออกมาทำให้ข้าวดูแฉะไม่น่าทาน วิธีทำ ตักข้าวใส่มือ เอาแบบพอดีมือ ใช้มือสองข้างมาประกบแบบไขว้กันเพื่อให้ข้าวเป็นสามเหลี่ยม เอานิ้วจิ้มตรงกลางเพื่อใส่ไส้แล้วก็นำข้าวโปะรูที่เราจิ้ม นำมือประกบเพื่อให้กลับมาเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมเหมือนเดิม สาหร่ายโดยการ

เทมปุระ(Tempura)

รูปภาพ
เทมปุระ(Tempura)     เทมปุระ (Tempura) เป็นอาหารญี่ปุ่นที่พัฒนาการมาจากอาหารโปตุเกส โดยมิชชันนารีเป็นผู้นำเข้า มาเผยแพร่ ในศตวรรษที่16 และ ในศตวรรษที่ 19 เทมปุระถูกประยุกต์ให้  กลายเป็นอาหารญี่ปุ่นเต็มตัวและได้รับความนิยมอย่างสูง มีขายตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในภัตตาคาร ร้านฟาสต์ฟูด ซุปเปอร์มาเก็ต รวมถึงร้านอาหารเล็กๆ   เทมปุระ คือ การเอาอาหารทะเล เช่น กุ้ง ปลา และผักต่างๆมาชุบในแป้งสาลีมาทอดในน้ำมันมากๆจนแป้งหุ้มด้านนอกกรอบมีสีเหลืองอ่อนเวลาจะทานก็เอามาจิ้มซอสเทนทสึยุ ที่ปรุงให้เหมาะกับ ลิ้นของคนญี่ปุ่น ทานตอนที่ยังร้อนๆกรอบๆ วัตถุดิบ กุ้งกุลาดำ 8-10 ตัว แป้งสาลี   1 ถ้วยตวง ไข่ไก่ 1 ฟอง น้ำเย็น 1/2 ถ้วย วิธีทำ ล้างกุ้งให้สะอาด เด็ดหัวออก ผ่าหลังเอาเส้นดำออก หงายท้องกุ้งแล้วบั้งกุ้งเป็นแนวตามแนวขวาเพื่อให้กุ้งเหยียดตรง เทแป้งสาลีลงไปในชามผสมตามด้วยน้ำเย็น เทให้ท่วมแป้ง แล้วตามด้วยไข่ไก่ ใส่ลงไปและคนอย่างช้าๆ ให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ท่วม ใช้ไฟกลางรอให้น้ำมันร้อนจัด นำกุ้งมาชุบแป้ง แล้วนำลงไปทอดจนเหลืองกรอบ จัดใส่จานพร้อมเสริฟ Tip! น

LET ' COOK AND EAT อาหารญี่ปุ่นสุดน่าอร่อย

รูปภาพ
LET ' COOK AND EAT  อาหารญี่ปุ่นสุดน่าอร่อย รวบรวมวิธีทำและประวัติความเป็นมาของอาหารญี่ปุ่น หลากหลายชนิด  สุดน่าทานที่ทำได้ง่ายๆ